AREA 51

 

“ว่าแต่ Tongue technology ของพี่น่ะ โชว์ให้ดูหน่อยสิครับ นะครับ…”

 

จบประโยคของเด็กร่างยักษ์ คนตัวเล็กก็ถูกผลักให้ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมนิ่ม มิน ยุนกิขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์กับความเอาแต่ใจของจองกุก แต่เพราะสายตาท้าทายที่ถูกส่งมาทำให้เขายอมเอื้อมมือขาวไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของจองกุก ดึงกางเกงพร้อมบอกเซอร์ลงเผยให้เห็นส่วนคับแน่นที่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ยุนกิเผลอกลืนน้ำลายเล็กน้อยเพราะขนาดที่เกินมาตรฐานทั่วไปของคนตรงหน้า ก่อนจะเริ่มต้นด้วยการส่งลิ้นเล็กไปชิมน้ำตรงส่วนหัว มือหนาของจองกุกลูบผมปลอบใจคนตัวเล็ก ก่อนจะกดน้ำหนักลงเพื่อเป็นสัญญาณให้ยุนกิจัดการกับความอึดอัดของตัวเองเสียที ยุนกิสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้งก่อนที่จะค่อยๆกดหัวลงจนสามารถรับแกนกายทั้งหมดเข้าไปในปาก ยกหัวขึ้นจนถึงปลายแล้วก้มลงไปอีกครั้งอย่างไม่ลังเล จองกุกเผลอขยับสะโพกอย่างไม่รู้ตัวจนคนตัวเล็กสำลักแต่ไม่ได้ผละออกแต่อย่างใด ยุนกิเงยหน้าขึ้นมองจองกุกด้วยสายตาคาดโทษแต่น้ำตาที่คลออยู่ตรงหางตาเรียวนั่นกลับทำให้จองกุกอยากขยับสะโพกสวนอีกครั้งแต่ต้องพยายามข่มใจไว้ ยุนกิใช้ลิ้นเลียและดูดดุนแท่งตรงหน้าอย่างชำนาญจนจองกุกต้องรีบใช้มือส่งสัญญาณบอกให้คนตัวเล็กหยุดก่อนที่ตัวเองจะทนไม่ไหว

 

“ทีนี้ก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วหันหลังมาครับ”

 

“ทำไมกูต้องฟังคำสั่งมึงด้วย มึงมี…”

 

“ไม่ต้องถอดก็ได้ครับ แต่ผมไม่รับประกันว่าเพลงนั้นจะมีแค่พี่ที่ได้ฟังนะ”

จบคำพูดของร่างสูง ยุนกิก็ส่งสายตาหงุดหงิดกลับไปทันที ก่อนที่จะค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วนอนคว่ำไปกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ ปล่อยให้สะโพกขาวนุ่มนิ่มเด่นชัดอยู่ตรงหน้าของคนออกคำสั่ง จองกุกไล้มือไปตามสะโพกขาวและแลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความพอใจ ก่อนจะหยิบขวดเจลหล่อลื่นและถุงยางออกมาจากลิ้นชักข้างตัว

 

“อ้าขาอีกนิดสิครับ อา นั่นแหละ เด็กดี” จองกุกเคลือบนิ้วยาวของตัวเองด้วยเจลหล่อลื่นจนชุ่ม เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นกับคนตัวขาวตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆชำแรกก้านนิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางคับแน่น

 

“อะ อื้อ…เจ็บ” ยุนกิเผลอขยับสะโพกหนีความอึดอัดตามสัญชาติญาณ ก่อนที่สะโพกขาวจะถูกตรึงไว้กับที่ด้วยมือหนาของจองกุก ร่างสูงก้มตัวลงไปจูบหน้าผากนวลเบาๆเพื่อปลอบใจ เสียงครางอื้ออึ้งดังขึ้นตามจำนวนนิ้วและการขยับเข้าออกที่เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จองกุกจับยุนกิพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองก่อนจะเพิ่มจำนวนเป็นสามนิ้ว ทันทีที่ก้านนิ้วกระแทกเข้ากับจุดกระสัน ยุนกิก็เผลอหวีดร้องและเหวี่ยงตัวเข้ากอดจองกุกแน่นทันที

 

“ใครๆก็บอกชอบว่าเสียงพี่ตอนแรป แต่คนพวกนั้นคงไม่รู้สินะครับว่าเสียงพี่ตอนครางน่ะเซ็กซี่กว่าเป็นไหนๆ”

 

“อะ อื้อออ… จูบหน่อย จูบ”

จองกุกหัวเราะเล็กน้อยให้กับความน่ารักของคนตรงหน้าก่อนจะป้อนจูบหนักๆให้กับคนตัวขาวที่ร้องขอจูบจากเขา นิ้วเรียวหยุดนิ่งอยู่กับที่ ปล่อยให้ยุนกิขยับสะโพกขึ้นลงบนนิ้วนั่นด้วยตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าเตรียมพร้อมให้กับช่องทางของร่างเล็กพอแล้ว จองกุกก็ถอนนิ้วออกเพื่อที่จะเปลี่ยนมารูดสวมถุงยางก่อนขยับรูดแกนกายสองสามครั้งอย่างไม่เร่งรีบนัก ยุนกิยู่ปากอย่างหงุดหงิดให้กับความขี้แกล้งของร่างสูง

 

“เข้ามาได้แล้วหน่าเจเค มึงจะถ่วงเวลาไปถึงไหน”

 

“ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องขอดีๆ พูดเพราะๆสิครับพี่ยุนกิ” จองกุกยังคงจ้องหน้ายุนกิพร้อมรูดขึ้นลงช้าๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปยังขั้นต่อไป ยุนกิที่เริ่มทนไม่ไหวจึงกดไหล่จองกุกให้นั่งลงไปบนเก้าอี้ ก่อนที่มือบางจะจับแกนกายของร่างสูงมาจ่อตรงปากช่องทางอุ่นของตนแล้วค่อยๆกดสะโพกลงไปช้าๆ จองกุกยอมรับว่าตัวเองตกใจกับความใจร้อนของร่างเล็ก แต่บอกตรงๆว่ามิน ยุนกิตอนนี้น่ะ…โคตรฮ็อตเลย

 

“อื้อ ลึก ลึกไปแล้วเจเค”

 

“พี่เรียกผมว่าอะไรนะครับ” จองกุกขยับสะโพกสวนกลับไปอย่างรุนแรง ส่วนปลายแกนกายที่กระแทกตรงจุดกระสันทำให้ยุนกิเผลอร้องครางออกมา ขาเรียวสั่นอย่างหมดแรงจนต้องทิ้งตัวไปยังคนตัวใหญ่กว่าอีกครั้ง

 

“จะ..จองกุก จองกุก อื้อ ตรงนั้นๆ แรงอีก” แก้มขาวของยุนกิขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่ารัก เสียงครางต่ำที่หลุดออกมาจากปากบางอย่างไม่สามารถห้ามได้อีกต่อไปนั้นนั้นเพราะยิ่งกว่าเพลงใดๆในความคิดของจองกุก

 

“ถ้าผู้หญิงที่อยากนอนกับพี่มาเห็นพี่ตอนนี้จะรู้สึกยังไงนะ พวกผู้ชายที่อยากจะถูกพี่ลากขึ้นเตียงก็เหมือนกัน”

 

“จะ…จองกุก…ไม่เอานะ ไม่เอา อื้อ มะ…ไม่ให้ใครรู้”

 

จองกุกยิ้มเล็กน้อยให้กับคนตัวเล็กตรงหน้าที่ส่ายหน้ารัวๆจนหน้าม้าส่ายไปม้า ดวงตากลมฉายแววเศร้าชั่วขณะก่อนจะถูกฉาบทับด้วยแรงกามารมณ์อีกครั้ง ไม่ใช่ไม่อยากบอกคนอื่น ไม่ใช่ไม่อยากแสดงออกให้ใครรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของยุนกิ แต่เขารู้ดีว่าหากมีใครรู้เรื่องของเขากับยุนกิเข้า คงไม่ดีกับเส้นอาชีพนักดนตรีของพวกเขาทั้งสองคนเป็นแน่ โดยเฉพาะกับยุนกิ แรปเปอร์มาดเท่ในสายตาของคนทั่วไป

 

“จะไม่มีใครรู้เรื่องของเรา ผมสัญญา แต่พี่ต้องห้ามดื้อกับผมนะ” ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงเสี้ยววินาที แต่ยุนกิก็สังเกตเห็นความเศร้าในแววตาของจองกุก หัวใจของคนตัวขาวรู้สึกหน่วงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขายินดีทำทุกอย่างเพื่อให้จองกุกมีความสุข

 

“ไม่ดื้อแล้ว อ้ะ!…แต่..อื้อ…แต่พี่ยุนกิ..ระ..รักจองกุก”

 

“ว่าไงนะครับ”

 

“ยุนกิ…พี่ยุนกิเป็นของจองกุกคนเดียว” ทันทีที่พูดจบ คนตัวเล็กก็รีบยกมือมาปิดหน้าทันที แต่รอยแดงจางๆที่หูก็ยังเป็นหลักฐานบ่งบอกได้อย่างดีว่ายุนกิกำลังเขินขนาดไหน

 

“พี่แม่ง! ทำไมน่ารักขนาดนี้ ผมจะไม่ทนแล้วนะ”

จองกุกที่ทนความน่ารักของคนบนตักไม่ไหวจับขาของยุนกิมาพันรอบเอวของตน แล้วใช้แขนแกร่งอุ้มยุนกิไปเดินยังผนังห้องอีกด้าน ยุนกิใช้มือคล้องคอจองกุกแน่นแล้วซุกหน้าเข้ากับไหล่ของคนตรงหน้า จองกุกขยับสะโพกเข้าออกรวดเร็วจนยุนกิทำได้เพียงแค่ร้องครางออกมาเท่านั้น

 

“จองกุก! จะถึงแล้ว อื้อ เร็วอีก” มือหนาเลื่อนไปจับแกนกายของคนตรงหน้าก่อนจะรูดขึ้นลงพร้อมๆกับจังหวะสะโพกของตัวเอง ยุนกิเกร็งตัวก่อนจะปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาจนเลอะมือของอีกคน จองกุกส่งนิ้วมือที่เปื้อนคราบขาวไปยังคนตรงหน้า ยุนกิอ้าปากรับด้วยความเต็มใจก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นเล็กเลียทำความสะอาดทีละนิ้วจนไม่เหลือคราบใดๆอีก ช่องทางอุ่นแน่นที่บีบรัดตัวถี่ๆและภาพเซ็กซี่ของคนตัวขาวตรงหน้าทำให้ในที่สุดจองกุกก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน

 

จองกุกปล่อยให้ยุนกิยืนบนพื้นด้วยขาของตัวเอง รอจนยุนกิสามารถทรงตัวได้แล้วจึงค่อยๆถอนกายออกจากช่องทางรัด มัดปากถุงยางจนแน่นก่อนโยนทิ้งลงถังขยะ ร่างสูงเดินกลับมาหายุนกิอีกครั้งก่อนจะช้อนตัวยุนกิขึ้น อุ้มร่างขาวไปวางลงบนโซฟาตัวใหญ่ในห้อง กดจูบเบาๆลงไปบนริมฝีปากบางของคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู มิน ยุนกิสำหรับคนอื่นน่ะเป็นคนเย็นชาและหยาบคาย แต่สำหรับจองกุก เจ้าตัวเล็กนี่ก็เป็นแค่ลูกแมวที่ชอบขู่เท่านั้นแหละ

 

 

กลับไปต่อที่ dek-d อีกนิดนึงน้าา 🙂